Saturday, October 29, 2011

ปฐมบท: คว้าฝันวันวานมาพลิกโลก ตอนที่ ๒: เรื่องจริงของเด็กหญิงคนหนึ่ง

ปฐมบท:คว้าฝันวันวานมาพลิกโลก ตอนที่ ๒ อ่านมาเล่าต่อจากหนังสือ (The Element:How Finding Your Passion Changes Everything ) เขียนโดย Dr. Ken Robinson



เรื่องจริงของเด็กหญิงคนหนึ่ง
สาวน้อยจิลเลี่ยน (Gillian) อายุแปดขวบแล้ว แต่การเรียนของเธอแย่มาก ไม่ทำการบ้านส่งครู ส่งงานสายเสมอๆ ลายมือก็เป็นไก่เขี่ยจนครูอ่านไม่ออก สอบก็ได้คะแนนต่ำ ที่แย่กว่านั้นเธอรบกวนเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน เดี๋ยวก็ทำเสียงดัง เดี๋ยวก็กระโดดโลดเต้นไปตรงนั้นทีตรงนี้ที เป็นที่อิดหนาระอาใจของครูประจำชั้น
นอกจากครูประจำชั้นจะถูกขัดจังหวะการสอนในชั้นแล้ว ยังทำให้เพื่อนร่วมชั้นเรียน เรียนไม่รู้เรื่องอีกด้วย
เมื่อเป็นปัญหาหนักขึ้น โรงเรียนจึงตัดสินใจส่งจดหมายถึงผู้ปกครองของจิลเลี่ยน เพื่อจะขอย้ายเธอ ไปอยู่โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี คศ 1930 ซึ่งยังไม่มีการศึกษาวิจัยเรื่องโรคสมาธิสั้น(ADHD:Attention deficit hyperactivity disorder)ในเด็กมากนัก จิลเลี่ยนจึงไม่ได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นและได้รับยารักษาอย่างเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นในปัจจุบัน
เมื่อพ่อแม่ของจิลเลี่ยนได้รับจดหมายจากทางโรงเรียน คุณแม่ของหนูน้อยจิลเลี่ยนตกใจ และตัดสินใจต้องทำอะไรสักอย่าง

คุณแม่จับจิลเลี่ยนแต่งตัวให้ดูดีและเรียบร้อยที่สุด
แล้วพาเธอไปหาจิตแพทย์!

------
หนูน้อยจิลเลี่ยนถูกพามาห้องที่ไม่คุ้นเคย โต๊ะทำงานไม้ขรึมในห้องใหญ่ รอบล้อมไปด้วยตู้หนังสือ มีโซฟาตัวใหญ่อยู่ปลายสุดของห้อง
ชายในสูทสีครีมขาวท่าทางเรียบร้อยเจ้าของห้อง เชื้อเชิญให้จิลเลี่ยนไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินกลับมาคุยกับคุณแม่ที่โต๊ะทำงาน
จิลเลี่ยนนั่งใจระทึกอยู่ที่โซฟา พยายามทำตัวให้เรียบร้อยและนิ่งที่สุด เพราะเธอไม่อยากเป็นตัวปัญหา
จิตแพทย์คุยกับคุณแม่ถึงเรื่องที่โรงเรียนของจิลเลี่ยน ปัญหาในการเรียนที่โรงเรียน เพื่อพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิลเลี่ยน

โดยไม่ถามจิลเลี่ยนสักคำ


แต่ในขณะที่ปากป้อนคำถามคุณแม่ สายตาของหมอแอบเฝ้าดูพฤติกรรมของสาวน้อยที่อยู่ไกลออกไป

จิลเลี่ยน รู้ในการเฝ้าสังเกตุของหมอดี และรู้ด้วยว่าพฤติกรรมของตัวเองในตอนนี้ จะส่งผลกระทบใหญ่หลวง

กับชีวิตในวันข้างหน้า
จิลเลี่ยน นั่งเงียบ พยายามทำตัวให้เรียบร้อยที่สุด หนูน้อยไม่อยากไปโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ

ผ่านไปครู่ใหญ่ คุณแม่และหมอหยุดคุย เดินมาหาที่โซฟา คุณหมอนั่งลงแล้วบอกว่า
"จิลเลี่ยน ขอบคุณมากที่อดทนรอคอยการสนทนาของเรา แต่เกรงว่าเธอจะต้องอดทนต่อไปอีกสักหน่อย

เพราะคุณหมอต้องการคุยกับคุณแม่เป็นการส่วนตัว พวกเราจะออกไปคุยกันข้างนอกสัก 5 นาที"
จิลเลี่ยน พยักหน้ารับคำ
คุณหมอและคุณแม่เดินออกจากห้อง ก่อนที่หมอจะออกจากห้อง คุณหมอเปิดวิทยุไว้ให้จิลเลี่ยนฟัง

------
คุณหมอและคุณแม่ออกไปนอกห้อง

แล้วแอบดู จิลเลี่ยน ผ่านกระจกลับอย่างเงียบ ๆ โดยที่จิลเลี่ยนไม่รู้ตัว

ทันใดนั้น


สิ่งที่หมอและคุณแม่ต้องตกตะลึง ก็คือ

จิลเลี่ยนกระโดดโลดเต้น ตามจังหวะเสียงเพลง อย่างมีความสุข คงดีใจที่ไม่ต้องฝืนทำตัวเรียบร้อยต่อหน้าหมออีกต่อไป
คุณหมอและคุณแม่ แอบเฝ้ามองพฤติกรรมของจิลเลี่ยนอยู่ระยะหนึ่ง

ในที่สุด, คุณหมอหันไปบอกกลับคุณแม่ว่า
" คุณรู้อะไรไหม? จิลเลี่ยนไม่ได้ป่วยอะไรเลย หนูน้อยแค่รักที่จะเต้นรำ ขอให้พาหนูน้อยไปโรงเรียนสอนเต้นรำ"
!!!!!

และแม่ของหนูน้อยจิลเลี่ยนก็ทำอย่างนั้นจริงๆ

------

จิลเลี่ยนได้ไปเรียนที่โรงเรียนเต้นรำ

จิลเลี่ยนเล่าถึงความรู้สึกที่เข้าไปให้ห้องเรียนวันแรกว่า
" ฉันเดินเข้าไปในห้องซ้อม มีคนอยู่เต็มไปหมด ทุกคนที่เหมือนฉัน พวกเขาเป็นคนที่ไม่สามารถนั่งอยู่นิ่งๆ ได้

ผู้คนที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อจะคิด "
แล้วจิลเลี่ยนก็ค้นพบที่ของเธอ เธอไปโรงเรียนทุกวัน เธอฝึกฝนทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน


แล้วเธอก็สอบเข้าโรงเรียนสอนบัลเล่ต์ชื่อดังในลอนดอน (Royal Ballet School in London)


โรงเรียนตอบรับเธออย่างไม่ลังเล

หลังจากจบการศึกษา จิลเลี่ยนฝึกฝนจนเป็นนักบัลเล่ต์มีชื่อเสียง เธอเปิดการแสดงเดี่ยวไปทั่วโลก

ผลงาน The Phantom of Opera ของเธอ เปิดแสดงที่โรงละครบรอดเวย์ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

------


และนี่คือเรื่องราวของ
จิลเลี่ยน ลีน (Gillian Lynne:Wiki, เว็ปไซต์ส่วนตัวของเธอ )



Royal Ballet Days - from Picture Post 1949

ปัจจุบันจิลเลี่ยนเป็นนักออกแบบท่าเต้น (Choreographer) เป็นผู้กำกับ เป็นนักแสดง

ที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก

* แปลและเสริมแต่งโดย นายช่างคิด

22:10 111110 Boston
* ภาพประกอบเรื่อง ส่วนใหญ่จาก wikipedia และ เว็ปไซต์ส่วนตัวของ GillianLynne.com   และภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต
ภาพหน้าแรก "Passion" จาก http://www.positivematrix.com

อ่านเรื่องตอนแรกที่นี่ อ่านมาเล่าต่อ: ปฐมบท:คว้าฝันวันวานมาพลิกโลก (The Element: How Finding Your Passion Changes Everything :.) ตอนที่ ๑

ข้างเคียง:

ด้านใต้รูป "Passion" ที่นำมาประกอบเรื่องวันนี้ มีตัวหนังสือเล็ก ๆ เขียนไว้ว่า
"Above all, be true to yourself, if you cannot put your heart in it, take yourself out of it"
" เหนือสิ่งอื่นใด ให้ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ถ้าไม่สามารถเอาใจไปจดจ่อกับมันได้, ก็ดึงตัวเองออกมา"


เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.bbl4kid.org
นาม: นายช่างคิด

Friday, October 21, 2011

วิจารณ์หนังสือ อัจฉริยะสร้างได้ (จริงหรือ)


วิจารณ์หนังสือ อัจฉริยะสร้างได้ (จริงหรือ)



อัจฉริยะสร้างได้ : เคล็ดลับพัฒนาอัจฉริยภาพ 8 ด้าน เพื่อก้าวสู่ความเป็นอัจฉริยะ
โดย วนิษา เรซ (Vanessa Race) หรือ หนูดี
สำนักพิมพ์ Red
พิมพ์ครั้งแรก มิถุนายน 2550
ISBN 978-974-8001-61-6
ปกอ่อน 179 หน้า ราคา 165 บาท



หนังสือเล่มนี้ผมอ่านจบนานแล้ว ว่าจะเขียนถึงหลายที แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งเขียนดี ๆ เพราะติดสอบ
ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบภายในไม่กี่ชั่วโมง ด้วยเป็นเพราะหนังสือเขียนให้อ่านง่าย ๆ ลักษณะการเขียนทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่ากำลังนั่งคุยสบาย ๆ อยู่กับผู้เขียน (คุณหนูดี) เนื้อหาในหนังสือกล่าวถึง ทฤษฎีพหุปัญญา หรือ Multiple Intelligences ที่เสนอโดย ศาสตราจารย์ โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardnerรูป) ทฤษฎีพหุปัญญา นี้ได้หักล้างแนวคิดเก่า ๆ ที่ว่าความเป็นอัจฉริยะเป็นเรื่องของความฉลาดแต่เพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วความอัจฉริยะนั้นสามารถแสดงออกได้ในหลาย ๆ ด้าน ศาสตราจารย์โฮเวิร์ดได้เสนอแนวคิดนี้ในหนังสือ Frames of Mind (กรอบทางความคิด): 1983 อัจริยะภาพของมนุษย์อย่างน้อยแปดประการได้ถูกนำเสนอ อันประกอบไปด้วย
  1. ภาษาและการสื่อสาร (Linguistics Intelligence)
  2. ร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily-Kinesthetic Intelligence)
  3. มิติสัมพันธ์และการจินตภาพ (Spatial Intelligence)
  4. ตรรกะและคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
  5. การเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
  6. การเข้าใจผู้อื่นและมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
  7. การเข้าใจธรรมชาติ (Naturalist Intelligence)
  8. ดนตรีและจังหวะ (Musical Intelligence)
คุณหนูดี ได้สรุปอัจริยะภาพแปดประการนั้น ด้วยภาษาที่อ่านง่าย ยกตัวอย่างให้เห็นถึงการแสดงออกถึงอัจฉริยะภาพในด้านต่าง ๆ และยกตัวอย่างบุคคลที่แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะภาพในด้านนั้น ๆ ได้อย่างน่าสนใจ

นอกจากนี้คุณหนูดียังแทรกเสริม เทคนิคเคล็ดลับต่าง ๆ ที่ใ้ช้พัฒนาอัจฉริยะภาพได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการทำ Mind Maps, การพัฒนาทักษะการพูด ฟัง คิด อ่านและ เขียน รวมไปถึงการร้องเพลง เล่นกีฬา และเรืองอื่น ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม และง่ายที่จะปฏิบัติตาม

ตอนท้ายของเล่ม เป็นประวัติของคุณหนูดี หรือ วริษา เรซ และข้อมูลเกี่ยวกับงานที่เธอทำอยู่

สิ่งที่ชอบมาก สำหรับหนังสือเล่มนี้ คือ อ่านแล้วมีกำลังใจ ทำให้รู้สึกว่า เราทำได้ เราสามารถที่จะพัฒนาความเป็นอัจฉริยะในทุกด้าน ๆ ของเราได้ เทคนิควิธีการต่าง ๆ ที่หนังสือแนะนำดูง่ายและไม่ซับซ้อน คุณหนูดีได้ทำให้เห็นว่าการใส่ใจกับกิจกรรมประจำวัน เช่น การนั่งหลังตรง การหายใจ การเคี้ยวอาหาร การฝึกวาดวงกลม ล้วนแต่พัฒนาความอัจฉริยะของเราได้ ขอเพียงแต่ได้ ใส่ใจ และเริ่มทำทำอย่างตั้งใจจริง


ที่จะติสักนิด สำหรับหนังสือเล่มนี้คือ คุณหนูดีเขียนหนังสือได้เหมือนมานั่งเล่ามากไปหน่อย ทำให้ลดทอนความวิชาการของเนื้อหาไป ประวัติของคุณหนูดีเองดูเหมือนจะมากไปนิด อ่านแล้วแกมหมั่นไส้อยู่ในที คนอะไร จะฉลาดพัฒนาตัวเองจนมี พหุปัญญา ได้ขนาดนั้น

สิ่งที่อยากเห็น ผมอยากเห็นคุณหนูดีเขียนหนังสือหรือบทความที่มีความเป็นวิชาการมากขึ้น มีเนื้อหาที่อ่านง่าย แต่ไม่ต้องมีลักษณะของการอ่านที่นั่งฟังหนูดีพูด (ตัดประโยคที่อ้างอิงถึงตัวเอง และสรรพนามออก เช่น "หนูดีคิดว่า หนูดีอย่างนั้น หนูดีอย่างนี้") และเนื่องจากคุณหนูดีได้ทำโรงเรียนและจัดการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้จริงจังน่าจะมีการแสดงผลของผู้ที่นำเทคนิคต่าง ๆ ไปใช้ ว่าพวกเขาเหล่านั้นพัฒนาตนได้มากเพียงใด ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนเทคนิควิธีการที่เขียนอยู่ในหนังสือ และพิสูจน์ให้เห็นว่า อัจฉริยะ นั้นสร้างได้จริง



อย่างไรก็ดี อัจฉริยะสร้างได้ เป็นหนังสือที่ควรหาอ่าน และขอเก็บเป็นหนังสือขึ้นหิ้ง ของ จิต-ใจ-ดี อีกหนึ่งเล่มครับ



เขียนโดย

ภาสกร (pC)



ขอบคุณ

รูปปกหนังสือ จาก http://ldd.go.th/e_library
พี่แอน ลลนา ที่ส่งหนังสือดี ๆ มาให้อ่าน

เผยแพร่ครั้งแรก: http://jit-jai-d.blogspot.com
9 มค 52
นำมาเผยแพร่อีกครั้ง เพราะหล่อนกำลังดัง

อ่านมาเล่าต่อ: ปฐมบท:คว้าฝันวันวานมาพลิกโลก (The Element: How Finding Your Passion Changes Everything :.) ตอนที่ ๑

หนังสือ ปฐมบท:คว้าฝันวันวานมาพลิกโลก (The Element:How Finding Your Passion Changes Everything )เขียนโดย Dr. Ken Robinson หนังสือเล่มนี้ผมยืมจากห้องสมุดกลางของเมืองบอสตั้นในรูปแบบ eBook มาอ่าน เริ่มแรกนึกว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง (Self-Improvement) อ่านไปบทแรกถึงเพิ่งรู้ว่าเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย (Elementary) ด้วย เนื้อหาน่าสนใจ เลยขอ "อ่านมาเล่าต่อ" บางส่วน ดังนี้



เกริ่นนำ (Introduction)

เรื่องเกิดขึ้น ณ โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ในช่วงโมงวาดเขียน (ไม่แน่ใจว่า เป็นโรงเรียนของครูแหลมคมหรือไม่ ฮา)

เด็กหกขวบกำลังขมักเขม้นกับกับสิ่งที่ตัวเองวาดอยู่บนกระดาษ เด็กหญิงหลังห้องคนหนึ่งซึ่งไม่ค่อยสนใจเรียนกับวิชาอื่นเท่าใดนัก

กลับนั่งจดจ่ออยู่กับการวาดรูปอยู่เป็นนาน ครูแหลมคม (-- ขออนุญาตยืมชื่อครูแหลมคม เป็นครูสอนศิลปะในเรื่อง  )


ครูแหลมคม อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถามเด็กหญิงด้วยความฉงน
"เธอกำลังวาดอะไรอยู่? "




เด็กหญิงตอบอย่างไม่ละสายตาไปจากกระดาษและดินสอที่กำลังง่วนอยู่ว่า
"หนู กำลังวาดพระเจ้า (GOD)"




ครูแหลมคมยิ้มละไม บอกกับหนูน้อยว่า
"แต่ ยังไม่เคยมีใครรู้เลยนะว่า พระเจ้า นั้นหน้าตาอย่างไร"



หนูน้อยกล่าวตอบ
" เดี๋ยวคุณครูก็จะได้เห็น พระเจ้า หลังจากที่หนูวาดเสร็จ"


---- จบ ---

เป็นอย่างไรครับ เรื่องนี้น่ารักไหม

เรื่องนี้เตือนใจให้เห็นถึง จินตนาการที่กว้างไกล และ ความมั่นใจในตัวเองของเด็ก ๆ


พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว สูญเสียความมั่นใจแบบนี้ไป



เมื่อเราโตขึ้น เราเริ่มสงสัย และ ไม่แน่ใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวทั้งหมด

มันจึงบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ของเราไป
ลองเข้าไปถามเด็ก ป. 1 ดูว่า นักเรียนคนไหนมีความคิดสร้างสรรค์บ้าง เด็กทุกคนในห้องจะยกมือ

แต่เมื่อเรา ลองเข้าไปถามเด็กมหาวิทยาลัย ดูว่า นักศึกษาคนไหนมีความคิดสร้างสรรค์บ้าง นักศึกษาหลายคนไม่แน่ใจ และน้อยคนที่จะยกมือ

หนังสือ The Element: How Finding Your Passion Change Everything  (ซึ่งผมขอแปลว่า ปฐมบท: ค้นพบตัวเองก็พลิกโลกได้) นี้ พยายามชี้ให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ พรสวรรค์ในตัวของเรา ซึ่งมักจะเห็นตั้งแต่ช่วง ปฐมวัย

เรื่องนี้ยาวครับ มีเรื่องของเด็ก ๆ หลาย ๆ คน เรียงร้อยได้อย่างน่าสนใจ คราวหน้าจะมาเขียนให้อ่านกันอีก
โปรดติดตาม

เผยแพร่ครั้งแรก
http://www.bbl4kid.org

* แปลและเสริมแต่งโดย นายช่างคิด
 5:50 111110 Boston
* ภาพประกอบเรื่อง โดย ครูแหลมคม