เรื่องจริงของเด็กหญิงคนหนึ่ง
สาวน้อยจิลเลี่ยน (Gillian) อายุแปดขวบแล้ว แต่การเรียนของเธอแย่มาก ไม่ทำการบ้านส่งครู ส่งงานสายเสมอๆ ลายมือก็เป็นไก่เขี่ยจนครูอ่านไม่ออก สอบก็ได้คะแนนต่ำ ที่แย่กว่านั้นเธอรบกวนเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน เดี๋ยวก็ทำเสียงดัง เดี๋ยวก็กระโดดโลดเต้นไปตรงนั้นทีตรงนี้ที เป็นที่อิดหนาระอาใจของครูประจำชั้น
นอกจากครูประจำชั้นจะถูกขัดจังหวะการสอนในชั้นแล้ว ยังทำให้เพื่อนร่วมชั้นเรียน เรียนไม่รู้เรื่องอีกด้วย
เมื่อเป็นปัญหาหนักขึ้น โรงเรียนจึงตัดสินใจส่งจดหมายถึงผู้ปกครองของจิลเลี่ยน เพื่อจะขอย้ายเธอ ไปอยู่โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี คศ 1930 ซึ่งยังไม่มีการศึกษาวิจัยเรื่องโรคสมาธิสั้น(ADHD:Attention deficit hyperactivity disorder)ในเด็กมากนัก จิลเลี่ยนจึงไม่ได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นและได้รับยารักษาอย่างเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นในปัจจุบัน
เมื่อพ่อแม่ของจิลเลี่ยนได้รับจดหมายจากทางโรงเรียน คุณแม่ของหนูน้อยจิลเลี่ยนตกใจ และตัดสินใจต้องทำอะไรสักอย่าง
คุณแม่จับจิลเลี่ยนแต่งตัวให้ดูดีและเรียบร้อยที่สุด
แล้วพาเธอไปหาจิตแพทย์!
------
หนูน้อยจิลเลี่ยนถูกพามาห้องที่ไม่คุ้นเคย โต๊ะทำงานไม้ขรึมในห้องใหญ่ รอบล้อมไปด้วยตู้หนังสือ มีโซฟาตัวใหญ่อยู่ปลายสุดของห้อง
ชายในสูทสีครีมขาวท่าทางเรียบร้อยเจ้าของห้อง เชื้อเชิญให้จิลเลี่ยนไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินกลับมาคุยกับคุณแม่ที่โต๊ะทำงานจิลเลี่ยนนั่งใจระทึกอยู่ที่โซฟา พยายามทำตัวให้เรียบร้อยและนิ่งที่สุด เพราะเธอไม่อยากเป็นตัวปัญหา
จิตแพทย์คุยกับคุณแม่ถึงเรื่องที่โรงเรียนของจิลเลี่ยน ปัญหาในการเรียนที่โรงเรียน เพื่อพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิลเลี่ยน
โดยไม่ถามจิลเลี่ยนสักคำ
แต่ในขณะที่ปากป้อนคำถามคุณแม่ สายตาของหมอแอบเฝ้าดูพฤติกรรมของสาวน้อยที่อยู่ไกลออกไป
จิลเลี่ยน รู้ในการเฝ้าสังเกตุของหมอดี และรู้ด้วยว่าพฤติกรรมของตัวเองในตอนนี้ จะส่งผลกระทบใหญ่หลวง
กับชีวิตในวันข้างหน้า
จิลเลี่ยน นั่งเงียบ พยายามทำตัวให้เรียบร้อยที่สุด หนูน้อยไม่อยากไปโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ
ผ่านไปครู่ใหญ่ คุณแม่และหมอหยุดคุย เดินมาหาที่โซฟา คุณหมอนั่งลงแล้วบอกว่า
"จิลเลี่ยน ขอบคุณมากที่อดทนรอคอยการสนทนาของเรา แต่เกรงว่าเธอจะต้องอดทนต่อไปอีกสักหน่อย
เพราะคุณหมอต้องการคุยกับคุณแม่เป็นการส่วนตัว พวกเราจะออกไปคุยกันข้างนอกสัก 5 นาที"
จิลเลี่ยน พยักหน้ารับคำ
คุณหมอและคุณแม่เดินออกจากห้อง ก่อนที่หมอจะออกจากห้อง คุณหมอเปิดวิทยุไว้ให้จิลเลี่ยนฟัง
คุณหมอและคุณแม่ออกไปนอกห้อง
แล้วแอบดู จิลเลี่ยน ผ่านกระจกลับอย่างเงียบ ๆ โดยที่จิลเลี่ยนไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น
สิ่งที่หมอและคุณแม่ต้องตกตะลึง ก็คือ
จิลเลี่ยนกระโดดโลดเต้น ตามจังหวะเสียงเพลง อย่างมีความสุข คงดีใจที่ไม่ต้องฝืนทำตัวเรียบร้อยต่อหน้าหมออีกต่อไป
คุณหมอและคุณแม่ แอบเฝ้ามองพฤติกรรมของจิลเลี่ยนอยู่ระยะหนึ่ง
ในที่สุด, คุณหมอหันไปบอกกลับคุณแม่ว่า
" คุณรู้อะไรไหม? จิลเลี่ยนไม่ได้ป่วยอะไรเลย หนูน้อยแค่รักที่จะเต้นรำ ขอให้พาหนูน้อยไปโรงเรียนสอนเต้นรำ"
!!!!!
และแม่ของหนูน้อยจิลเลี่ยนก็ทำอย่างนั้นจริงๆ
------
จิลเลี่ยนได้ไปเรียนที่โรงเรียนเต้นรำ
จิลเลี่ยนเล่าถึงความรู้สึกที่เข้าไปให้ห้องเรียนวันแรกว่า
" ฉันเดินเข้าไปในห้องซ้อม มีคนอยู่เต็มไปหมด ทุกคนที่เหมือนฉัน พวกเขาเป็นคนที่ไม่สามารถนั่งอยู่นิ่งๆ ได้
ผู้คนที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อจะคิด "
แล้วจิลเลี่ยนก็ค้นพบที่ของเธอ เธอไปโรงเรียนทุกวัน เธอฝึกฝนทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
หลังจากจบการศึกษา จิลเลี่ยนฝึกฝนจนเป็นนักบัลเล่ต์มีชื่อเสียง เธอเปิดการแสดงเดี่ยวไปทั่วโลก
ผลงาน The Phantom of Opera ของเธอ เปิดแสดงที่โรงละครบรอดเวย์ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
------
และนี่คือเรื่องราวของ
จิลเลี่ยน ลีน (Gillian Lynne:Wiki, เว็ปไซต์ส่วนตัวของเธอ )
Royal Ballet Days - from Picture Post 1949
ปัจจุบันจิลเลี่ยนเป็นนักออกแบบท่าเต้น (Choreographer) เป็นผู้กำกับ เป็นนักแสดง
ที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก
ที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก
22:10 111110 Boston
* ภาพประกอบเรื่อง ส่วนใหญ่จาก wikipedia และ เว็ปไซต์ส่วนตัวของ GillianLynne.com และภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต
ภาพหน้าแรก "Passion" จาก http://www.positivematrix.com
อ่านเรื่องตอนแรกที่นี่ อ่านมาเล่าต่อ: ปฐมบท:คว้าฝันวันวานมาพลิกโลก (The Element: How Finding Your Passion Changes Everything :.) ตอนที่ ๑
ข้างเคียง:
ด้านใต้รูป "Passion" ที่นำมาประกอบเรื่องวันนี้ มีตัวหนังสือเล็ก ๆ เขียนไว้ว่า
"Above all, be true to yourself, if you cannot put your heart in it, take yourself out of it"
" เหนือสิ่งอื่นใด ให้ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ถ้าไม่สามารถเอาใจไปจดจ่อกับมันได้, ก็ดึงตัวเองออกมา"
เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.bbl4kid.org
นาม: นายช่างคิด
นาม: นายช่างคิด